Featured

ท่องเที่ยวเวียดนาม ดูธรรมชาติที่บริสุทธิ์สวย

ทัวร์เวียดนาม
ท่องเที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองกล้วยๆด้วยข้อมูลประเทศเวียดนามรวมทั้งที่เที่ยวที่มีความมากมาย ทั่วทั้งเมืองเก่า อ่าวสวย สมุทรงาม แล้วก็วิถีชีวิตคนท้องถิ่นแบบอันซีน
เมืองเวียดนาม ประเทศที่กำลังเดินทางมาแรงอีกทั้งภาคเศรษฐกิจรวมทั้งการท่องเที่ยวของอาเซียน เสิร์ชเอ็นจิ้น Skyscanner ขอจัดเต็มรีวิวข้อมูลท่องเที่ยวเวียดนามด้วยตัวเองของแพทย์โจ้ หมอแบบใหม่หัวใจรักการท่องเที่ยว ผู้ครอบครองเพจ worldwantswandering แล้วก็ worldwantswandering.com หรือที่บรรดาแฟนๆรู้จักกันดีในชื่อ “แพทย์ๆตะลุยโลก” ซึ่งแพทย์โจ้เต็มอกเต็มใจมาแชร์ประสบการณ์ตะลุยเวียดนามให้กับใคร่รู้ว่าเวียดนามมีอะไรน่าท่องเที่ยว ได้ยืนขึ้นมาจัดทริปเตรียมความพร้อมไปเวียดนามกัน
ท็อปเมืองที่ประทับดวงใจที่สุด
“เวียดนามเป็นประเทศแคบๆยาวๆแบ่งเป็นภาคเหนือที่มีเพียงแต่เทือกเขา ภาคกึ่งกลางจะเป็นเมืองวัฒนธรรม ส่วนภาคใต้จะมีความก้าวหน้าและก็หาดทรายงามๆพูดได้ว่ามีสามภาคสามอารมณ์ที่แตกต่าง เมืองที่ผมถูกใจก็จะมี…”
ฮานอย (Hanoi)
หุ่นกระบอกน้ำที่เมืองฮานอย”เมืองหลวงของเวียดนาม มีเสน่ห์ตรงที่เป็นแหล่งรวมของทุกสิ่งทุกอย่าง มีเวียดนามสมัยใหม่กับสมัยเก่ามาเจอะกันแล้วก็เป็นจุดเริ่มแรกของชาติเวียดนาม” ตรงนี้มีอากาศเย็นสบาย มีที่เที่ยวที่สื่อความหมายหลักๆอาทิเช่น หลุมฝังศพโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum) สมุทรสาปคืนกระบี่ (Hoan Kiem Lake) วิหารวรรณกรรม (Van Mieu) โรงแสดงละครหุ่นกระบอกน้ำ (Municipal Water Puppets)
ซาขว้าง (Sa Pa)
เมืองงามที่อยู่บนเทือกเขา ในอดีตมีอาณานิคมประเทศฝรั่งเศสมาตั้งหลักแหล่งตรงนี้รวมทั้งมีสิ่งปลูกสร้างบ้านที่พักที่เป็นสถาปัตยกรรมประเทศฝรั่งเศส มีบรรยากาศแบบยุโรปอากาศเย็นสบายทั้งปีรวมทั้งมียอดดอยฟานสิปัน (Fansipan) ซึ่งเป็นเลิศเขาที่สูงที่สุดในเวียดนาม มีจุดสำหรับเพื่อชมวิวที่แลเห็นเมืองทั่วทั้งเมือง ยิ่งถ้าหากไปช่วงเช้าๆก็จะมองเห็นทะเลหมอกปกคลุมเมืองอยู่ เป็นที่ที่เหมาะสมกับการไปฮันนีมูน
ดุด่าหลัด (Dalat)
เมืองบนเทือกเขาทางตอนใต้ของประเทศ เป็นเมืองหลวงเก่าในยุคสมัยที่ประเทศฝรั่งเศสดูแลก็เลยมีพวกสถาปัตยกรรมประเทศฝรั่งเศสงามๆมาก แล้วก็ตรงนี้ยังเป็นที่ประทับพักผ่อนของพระราชาธิราชเวียดนามในสมัยเก่าด้วยเลยมีที่เที่ยวนานาประการ อย่างเช่น พระราชสำนัก โบสถ์ สมุทรสาป น้ำตกงามๆชาวเวียดนามถูกใจมาฮันนีมูนกันที่นี่เนื่องจากเดินทางสบาย มีท่าอากาศยานและก็โฮเต็ลหรูๆ
อ่าวฮาทดลองเบย์ (Ha Long Bay)
เป็นอ่าวปิดที่งามมากมายและก็มีจุดให้แวะลงท่องเที่ยวได้ มีอีกทั้งเทือกเขา ผา แล้วก็ถ้ำต่างๆจะไปเล่นน้ำ พายเรือ จะท่องเที่ยวแบบตอนเช้าเย็นกลับหรือไปนอนค้างบนเรือก็ได้ การเดินทางไปฮาทดลองเบย์ค่อนข้างจะใช้เวลาเยอะแยะแต่ว่าหากพวกเราต้องการสบายก็สามารถเลือกซื้อทัวร์ท่องเที่ยวได้จากทางโฮเต็ลที่พวกเราไปพัก
ตลาดบัคฮา (Bac Ha)
ออกไปจากซาขว้างราว 60 – 70 กม. ก็ใกล้จะถึงตลาดบัคฮาซึ่งเป็นตลาดของชนหมู่น้อย แต่ละวันอาทิตย์ชาวดอยเผ่าต่างๆก็จะลงมาจากเขาแล้วนำผลิตภัณฑ์มาขายกันที่นี่พวกเราจะมองเห็นวิถีชีวิตของคนกลุ่มน้อยซึ่งมองมีชีวิตชีวามากมายเพราะเหตุว่าชนเผ่าแต่ละเผ่าก็จะมีชุดสำหรับใส่ที่ต่างๆกัน มีตลาดค้าสัตว์เลี้ยง มีของชาวดอยแปลกๆมาขาย อาทิเช่น ข้าวของเครื่องใช้ที่ทำมาจากขนม้าหรือหางม้า อาภรณ์ เครื่องเพชรพลอยพื้นบ้าน เครื่องในสัตว์
Featured

เที่ยวเมียนมาร์สักการ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของประเทศพม่า

ทัวร์พม่า
สรรเสริญพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระบรมธาตุรายปีกำเนิดของปีม้า สักการพระบรมสารีริกธาตุมุเตา เยอะที่สุดของเมียนมาร์ ไหว้พระธาตุอินทร์ห้อย พระบรมธาตุรายปีกำเนิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
ถ้าหากจะเอ๋ยถึงการไปท่องเที่ยวเมียนมาร์แล้ว คงจะไม่มีผู้ใดไม่กล่าวถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์ประจำเมืองประเทศพม่า ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวประเทศพม่า ทั้งยังชาวต่างประเทศที่มาท่องเที่ยวเมียนมาร์ต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่แก่โบราณกว่า 2,000 ปี เป็นที่ตั้งพระผมธาตุ 8 เส้น ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งมีความโหฬารวิจิตรตระการตา โดยมากถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากแรงเลื่อมใสของชาวประเทศพม่า ด้วยกันบริจาคสินทรัพย์ทรัพย์สิน ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยมีทองคำแท้เผยแพร่เป็นแผ่นเรียงต่อกันห่อหุ้มตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 กก.อย่างยิ่งจริงๆ ทำให้เจดีย์ที่นี้ มีสีทองบรอนซ์แพรวพราว ฉายแสงให้มองเห็นอีกทั้งตอนกลางวันช่วงเวลากลางคืน ยิ่งไปกว่านี้ ด้านบนยอดเจดีย์ยังถูกแต่งแต้มไปด้วยอัญมณีอันเลอค่า เปล่งแสงระยิบมองเห็นมาแต่ไกล ผู้คนที่มาท่องเที่ยวประเทศพม่า นอกเหนือจากการที่จะมาสรรเสริญความสวยของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว จำเป็นต้องไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระตั้งจิตอธิษฐานและก็กราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานประสบผลสำเร็จ หรือ ลานอธิษฐาน ด้วยเหตุว่ามั่นใจว่าจะประสบผลสำเร็จจากที่ต้องการ ต่อด้วยการรดน้ำพระทุกวันกำเนิด ที่ตั้งอยู่อีกทั้งแปดด้านรอบองค์เจดีย์ และก็มีพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้บูชาขอพร
2. พระบรมธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ท่องเที่ยวประเทศพม่าดูความสวยสดงดงามของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวเมียนมาร์กันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีดูความงดงามในต้นแบบมอญกันบ้างที่ พระบรมธาตุมุเตา หรือ พระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุโบราณกว่า 2,000 ปี รวมทั้งยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศพม่าอีกด้วย ข้างในเจดีย์ใส่พระผมธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่ยุคมอญเรืองอำนาจ ทำให้ต้นแบบที่มองเห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทั้งหมดทุกอย่าง โดยมีฉัตรแบบเรียบองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ข้างในเป็นก้อนอิฐกลวง โดยมีความจำเป็นทางประวัติศาสตร์เป็น ใช้เป็นที่ทำพิธีเจาะพระหูของพระผู้เป็นเจ้าตะเบ็งเสียงชะเวตี้เมื่อครั้งท่านขึ้นครองราชย์ใหม่ๆถัดมาพระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วมได้สร้างฉัตรมอบเพิ่มอีกหลายชั้น พูดกันว่าก่อนที่จะท่านจะออกทำศึกทำสงครามเวลาใด จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกคราว รวมทั้งสมเด็จพระพระราชามหาราชเมื่อครั้งเคลื่อนทัพมาตีหงสาวดี ก็ได้เสด็จมานมัสการในที่ที่นี้เช่นเดียวกัน ก่อนหน้าที่ผ่านมาได้กำเนิดแผ่นดินไหวหลายหน และก็ครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะแล้วก็จัดโชว์ซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาท่องเที่ยวเมียนมาร์ได้สักการคู่กันกับองค์ตอนนี้ ซึ่งนี่เองที่นับว่าเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยกรรมวิธีการอธิษฐาน ให้เอามือรวมทั้งหน้าผากแตะต้องไปที่พระบรมสารีริกธาตุองค์เดิมที่หัก รวมทั้งอธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสำเร็จผล
3. พระบรมธาตุอินทร์ห้อย หรือ ไจหนโย
พระบรมสารีริกธาตุอินทร์ห้อย หรือ ไจครั้งโย ในภาษามอญ แปลว่า หินรูปหัวฤษี เป็นหินที่เชื่อถือ มีลักษณะเป็นหินสีทองคำขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตัน ตั้งอยู่บนผาชัน ถ้าเกิดมองดูด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อหินนั้นยื่นออกมานอกผา แถมผายังลาดลงต่ำ ทำให้ดูอย่างกับว่าหินวางอยู่อย่างล่อแหลม ราวกับจะร่วงลงมา กลับตั้งสูงเด่นบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงแต่น้อยนิด ไม่เกรงกลัวต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่อย่างใด เหมือนกับถูกพระอินทร์มาจับห้อยเอาไว้ ก็เลยได้เรียกกันว่า พระบรมธาตุอินทร์ห้อย นอกเหนือจากนี้ ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนหิน ได้ถูกจำทดลองเป็นพระผมแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระบรมธาตุรายปีหน้าจอ ที่คนกำเนิดปีนี้จะต้องท่องเที่ยวประเทศพม่า เพื่อไปนมัสการสักหนึ่งครั้งหนึ่งในชีวิต เช้าใจกันว่า ถ้าเกิดใครกันแน่ได้มานมัสการพระบรมธาตุอินทร์ห้อยนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ว่าความสำราญความรุ่งเรือง พร้อมด้วยขอสิ่งใดก็จะได้สมดังมุ่งหมายทุกสิ่ง
Featured

ท่องเที่ยวประเทศเกาหลี สัมผัสหิมะ ดูซากุระบาน สะกดรอยซีปรี่ดัง

ทัวร์เกาหลี
การเดินทาง BANGKOK – KOREA
สำหรับเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้พวกเรามีพี่สาวสุดงามเป็นผู้นำทัวร์ที่รอดูแลอำนวยความสะดวกให้กับพวกเราสำหรับเพื่อการท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้การเดินทางมาประเทศเกาหลีในตอนเมษายนที่เป็น หน้าร้อนของเมืองนั้นแม้กระนั้นที่ประเทศเกาหลีพวกเราจะได้สัมผัสกับความหนาวเย็นสบายในฤดูใบไม้ผลิ และก็สถานที่เที่ยวแรกที่ได้เดินทางไปนั้น
ENGLISH VILLAGE
ENGLISH VILLAGE เป็นสถานที่แรกสำหรับในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้ ENGLISHVILLAGE เป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำซี่รีส์ประเทศเกาหลีเรื่อง ” F4 รักฉบับใหม่หัวใจ 4 ดวง ” บรรยากาศรอบๆนั้น มองสะอาด งามมากมาย อาคารตึกที่ผลิตขึ้นนั้นสไตล์ยุโรป ที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกราวกับพวกเราได้ท่องเที่ยวยุโรปแบบเดียวกัน ทั้งยังยังสนุกเพลินกับการถ่ายภาพกับ POSTER ของซี่รีส์ประเทศเกาหลีเรื่อง F4 รักฉบับใหม่หัวใจ 4 ดวง ต่อจากนั้นได้รับประทานของกินประเทศเกาหลีมื้อแรกี่มีชื่อว่า “ทัคคาลบี้เมื่อเพิ่มเติมพลังสำหรับเพื่อการเดินทางด้วยของกินประเทศเกาหลี แล้วนั้นได้เดินทางถัดไปยัง” เกาะนามิ “สถานที่ถ่ายทำซีรี่ส์ประเทศเกาหลีดัง” WINTER LOVE SONG ” คุณจะได้สัมผัสทิวภาพของต้นไม่ ที่ปลูกเรียงรายสวย แต่ว่าด้วยอากาศที่ยังหนาวเย็นอนู่นั้นทำให้พวกเรามองเห็นฯลฯไม้ที่ไม่มีใบซึ่งให้ความรู้ความเข้าใจสึกงามไปอีกในลัษณะหนึ่งแต่ว่าถ้าหากว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิพวกเราได้มองเห็นฯลฯไม้ที่มีใบสีเหลือง ไปโคนลดแนวของต้นไม้ที่ขึ้นเรียงราย
ไร่สตอเบอร์ปรี่
เพิ่มพลังกับอาหารมื้อเช้าที่โฮเต็ลแล้วก็เริ่มเดินทางสู่ไร่สตอเบอร์ปรี่เมื่อเดินทางมาถึงที่ไร่สตอเบอร์ปรี่ก็ได้ลองความอร่อยแล้วก็สดใหม่ของสตอเบอร์ปรี่ซึ่งสามารถบอกได้เลยว่าเป็นสตอเบอร์ปรี่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยรับประทานมาเนื่องจากพวกเราสามารถเก็บจากต้นได้เองกับมือแถม” สตอเบอร์ปรี่ที่นี้มีขนาดลูกใหญ่มากๆ” ภายหลังเดินเล่นไร่สตอเบอร์ปรี่พอเหมาะพอควรได้เดินทางถัดไปยังสถานศึกษาสอนทำ” กิมจิ”ที่ได้ลงมือกระทำรับประทานจิเองกับมือแม้กระนั้นโชคร้ายที่มิได้ลองความสามารถตนเองแต่ว่ามีความคิดว่าคงจะอร่อยอยู่นะ รวมทั้งกินอาหารตอนกลางวันก่อนที่จะเดินทางยังดินแดน ที่ความเพลิดเพลินสานและก็เสียงหัวเราะ
EVERLAND
หลังรับประทานอาหารตอนกลางวันแล้วพวกเราทุกคนได้เดินทางไปสู่ดินแดนที่เสียงหัวเราะแล้วก็ความสนุกอย่าง “EVERLAND”สวนสนุกที่ใหญ่รวมทั้งงามที่สุดบรรยากาศด้านในสวนสนุกเวลานี้ เต็มไปด้วยทุ่งดอกทิวลิปที่กำลังแข่งขันกันชื่นบานยกช่ออันงดงามมีการแสดงแล้วก็เดินแถวพาเหรดรวมทั้งเครื่องเล่นต่างๆที่รอคอยให้มาต่อสู้ความเก่งกล้า และก็สัมผัสความหวาดเสียว แต่ว่าที่ยอดเยี่ยมและก็ชื่นชอบเยอะที่สุดในการเดินทางมาประเทศเกาหลีในคราวนี้เป็น หิมะที่ตกโรยลงมา นับเป็น ” คราวแรกในชีวิตที่ได้สัมผัสกับหิมะของแท้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ” รู้สึกตื่นเต้นมากมายๆจนถึงหายหนาวเลย ไม่นานเดินทางกลับไปสู่ที่พักเพื่อพักเก็บแรงเอาไว้ท่องเที่ยว แล้วก็ช้อปปิ้งในวันพรุ่งนี้
ป้อมฮวาซอง-อนุสาวรีย์นกฟีนิกซ์-พิพิธภัณฑสถานเท็ดดี้กางร์
ภายหลังจากกินอาหารยามเช้าเสร็จเป็นระเบียบได้เริ่มเดินทางสู่”ป้อมฮาวาซอง”มรดกโลกของประเทศเกาหลีซึ่งเคยเป็นที่ประทับแล้วก็ที่ฝั่งศพขององค์ชายรัชทายาทจังฮอนเป็นสถานที่โบราณของวงศ์สกุลประเทศเกาหลี ซึ่งได้เดินดูดูบรรยากาศรอบๆของป้อมฮาวาซองพอเหมาะพอควร ก็ได้เดินทางสู่ บลูเฮาส์ ทำเนียบผู้นำคนปัจจุบันนี้ ได้ยืนถ่ายภาพเป็นของที่ระลึกคู่กับ ” อนุสาวรีย์นกฟีนิกซ์ ” เครื่องหมายของความเป็นอมตะรวมทั้งดูทิวทัศน์ของ ” เทือกเขาหัวมังกร “จากนั้นเดินทางเข้าชม”พิพิธภัณฑสถานคติชนท้องถิ่น”ที่ได้ทำความเข้าใจและก็รู้ถึง ประวัติความเป็นมาของคนประเทศเกาหลีตั้งแต่สมัยโบราณผ่านทางห้องแสดงหุ่นต่างๆในพิพิธภัณฑสถาน ข้างหลังออกมาจากพิพิธภัณฑสถานคติชนประจำถิ่นแล้วรับ ประทานอาหารมื้อเที่ยง และก็จากนั้นเดินทางสู่ “หอสังเกตการณ์กรุงโซล (SEOUL TOWER) ” ที่นี้จะได้มองเห็นบรรยากาศรอบๆของกรุงโซล หลังจากนั้นเดินทางเข้าชม ” พิพิธภัณฑสถานเท็ดดี้กางร์ ” ( The Teddy Bear Museum ) ที่จะเต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีเท็ดดี้กางร์ในแบบต่างๆที่มีหมีเท็ดดี้กางร์เป็น ผู้แทนของผู้ที่เลียนแบบเหตุการณ์์รวมทั้งวิถีชีวิตของคนประเทศเกาหลี พอเพียงเดินเที่ยวในพิพิธภัณฑสถานหมีเท็ดดี้กางร์อย่างเพลินใจ ต่อจากนั้นก็เดินทางช้อปปิ้งที่ “ตลาดทงแดมุนแล้วก็ตลาดเมียงมองดอง” ซะจนกระทั่งไม่มีแรงรวมทั้งหมดกระเป๋าอย่างยิ่งจริงๆแล้วก็เดินทางสู่ที่พักเพื่อตระเตรียมเดินทางท่องเที่ยวดินแดนประเทศเกาหลีในวันถัดไป
ถนนหนทางยออิโด
เดินดูดอกซากุระตลอดบน ” ถนนหนทางซากุระ หรือถนนหนทางยออิโด ” ที่กรุงโซล และก็เก็บภาพความ ชื่นชอบกับดอกซากุระอย่างมาก ภายหลังเดินทางไปเยี่ยมชม ” โรงงานโสม ” ซึ่งได้รับอีกทั้งความรู้ความเข้าใจเรื่องโสมแล้วนั้นยังได้ดูแล้วก็ ลองสินค้าที่ทำมาจาก โสมประเทศเกาหลีแบบของจริงเริ่มแรก เว้นเสียแต่โรงงานโสมแล้วนั้น ได้เยี่ยมชม” โรงงานเจียระไนพลอยแอมมาคราวส “ที่ดินแดนประเทศเกาหลี นับเป็นดินแดนของพลอยสีม่วง พลอยที่สุขภาพความยั่งยืนรวมทั้งนำโชคของประเทศเกาหลีได้เยี่ยมชมจิวเวอร์ปรี่ที่ทำมาจากพลอยแอมมาครั้งส เพียงพอถึงเวลาตามที่มีการกำหนดการเดินทางก็จะต้องจำยอมบอกอำลาดินดินแดนประเทศเกาหลี และก็เดินทางกลับสู่เมืองไทยโดยสวัสดิภาพการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้เต็มไปด้วยความตรึงใจแล้วก็ความตื่นตาตื่นใจ กับสิ่งที่ได้สัมผัส ความงดงามของธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นความสวยของดอกซากุระ และยังรวมไปถึงหิมะที่ตกโปรยลงมา นับเป็นสิ่งอัศจรรย์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนแล้วก็สร้างความตรึงใจให้อย่างใหญ่โต ” ท่องเที่ยวประเทศเกาหลีโอกาสนี้นับเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่สร้างความตรึงใจเป็นอย่างยิ่ง “

5 ยอดเยี่ยมสถานที่เที่ยวในเวียดนามที่คุณจะต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อเอ๋ยถึงเวียดนามใครๆก็ชอบระลึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่ว่าทราบไหมมีสถานที่เที่ยวใหม่ๆน่าสนใจอีกเยอะแยะในเวียดนามที่ปัจจุบันนี้กำลังเป็นกระแสเป็นอย่างมากๆที่คุณไปเวียดนามจะต้องไม่พลาด พวกเรามาอัพเดทกันวันท่องเที่ยวเวียดนามทั้งทีจำเป็นต้องสุดๆ5 สถานที่ไหนกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. ท่องเที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โรงแรม บนยอดเขา อยู่ห่างจากเมืองดานังโดยประมาณ 40 กิโล ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา เทือกเขาบานา เคยเป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยด้านบนเป็นบ้านพักรวมทั้งโฮเต็ลของชาวฝรั่งเศสยุคเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 ข้างหลังการรบชาวประเทศฝรั่งเศสปราชัยกลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่ยาวนานหลายปี จนกระทั่งถูกกลับมาบูรณะเป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากอีกครั้งในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างตะกร้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับการนั่งกระเช้าจากด้านล่างขึ้นไปข้างบน ค่าใช้สอยในการก่อสร้างเคเบิลคาร์ช่วงแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา และตอนที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดเขา มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา

ดังนี้ บานาฮิลล์ ถูกสร้างขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่โด่งดังจากประเทศออสเตรเลีย วัสดุและเครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดเส้นทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งผอง 94 เคบิน ตะกร้ามีแบบเปิดเตียนโล่งโอเพ่นเครื่องปรับอากาศกับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ด้านในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.ท่องเที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่มีนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เที่ยวที่มีความจำเป็นทางประวัติศาสตร์ และก็ยังรวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยและก็น่ามาเยี่ยมมากมายแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งวันนี้เราจะขอเสนอแนะสถานที่เที่ยวที่มีทั้งยังความงาม และความตรึงใจ

โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างเป็นถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำชอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากด้านในถ้ำ และได้รับการยอมรับจาก นักตรวจถ้ำทั้งโลกว่า เป็นถ้ำลำดับที่หนึ่งของโลก เหตุเพราะเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการเช่น น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำเยอะที่สุด ยาวที่สุด แล้วก็กว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) เป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความเด่นทางธรรมชาติและทางธรรีวิทยา ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (หรือราวๆ 400 ล้านปี) นั่นจึงนำมาซึ่งการทำให้สวนแห่งนี้มีทำเลที่ตั้งแบบหินปูนที่เก่าแก่ที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จัก (Bo Trach) และอำเภอมิญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) แล้วก็ติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาทางด้านใตนประมาณ 500 กิโลเมตร ภายในเขตอุทยานมีกรุ๊ปหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้โด่งดังในความงดงามของถ้ำที่มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำน้ำใต้ดินขนาดใหญ่

3.เที่ยวอ่าวฮาทดลอง (Ha Long Bay)
ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาทดลอง เป็นสถานที่เที่ยวสำคัญอีกแห่งในประเทศเวียดนามที่ความโด่งดังโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งนักเดินทางทุกคนไม่สมควรพลาดดู โดยตรงนี้ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากหน่วยงานองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติเพราะมีความสวยสดงดงามของธรรมชาติจำนวนมาก

ฮาทดลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาลองตั้งอยู่ทางทางเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ภายในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางตะวันออกโดยประมาณ 170 กิโลเมตร และอยู่ใกล้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮาลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งยาว 120 กม. มีเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทร บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่กับอย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long คือ อ่าวมังกรผู้ดำดิ่ง ตามตำนานชาวบ้านเวียดนามบอกกันว่า ในอดีตที่ชาวเวียดนามกำลังทำศึกกับจีน ทวยเทพเทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งถัดมามังกรกลุ่มนี้ได้ดำดิ่งลงสู่ทะเลบริเวณอ่าวฮาลอง ทำให้มีเพชรนิลจินดาแล้วก็หชูพุ่งกระเด็นออกมาแปลงเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะคุ้มครองผู้รุกราน แล้วก็บางตำนานเอ่ยถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งเชื่อว่าอาศัยอยู่ที่บริเวณตูดอ่าว

4.ท่องเที่ยวเมืองซาปา นาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาขว้าง คือเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์สูงที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยทำเลที่ตั้งอันสวยที่รุมล้อมไปด้วยเทือกเขาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นแทบทั้งปีทำให้เช้าของที่นี่มีไอหมอกปกคลุมงาม ในแต่ละปี ซาขว้าง ก็เลยดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทั้งโลกให้แวะเวียนมาเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาขว้าง คือเมืองเล็กๆที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มเดินทางมาพักตั้งแต่สมัยที่ประเทศฝรั่งเศสยังปกครองประเทศเวียดนาม โดยชาวตะวันตกติดอกติดใจตรงนี้เนื่องจากว่าอากาศดีและสงบเงียบ ต่อมาซาขว้างจึงเป็นที่รู้จักแล้วก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นจนถึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายหมื่นคนต่อปี

5.เที่ยวหมุยแหน เทือกเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่แห่งนี้ยืนยันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเพราะว่าภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายท่านคุ้นเคยกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ชิดกับริมหาด ก็เลยมีแดดและลมที่แรงมากมายทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งหมายถึงเทือกเขาทรายขาวและเทือกเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang แล้วก็มีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วยสำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นเป็นที่นิยมมากกว่าในสายตาของคนถ่ายภาพ เหตุเพราะสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีงามกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่างซึ่งเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเพื่อการมาเที่ยวคือ เวลาเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็น เพราะช่วงกลางวันถึงช่วงบ่ายนั้นอากาศรวมทั้งแดดจัดมากมาย
เป็นยังไงบ้างค่ะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีอีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตรวจตราท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วยค่ะ

ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักเดินทางที่เดินทางมายังที่แห่งนี้ยืนยันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย เพราะภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่ผู้คนจำนวนมากเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และก็อยู่ติดกับริมหาด ก็เลยมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 ที่หมายถึงภูเขาทรายขาวและก็เทือกเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang แล้วก็มีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย สำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นเป็นที่นิยมมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างถ่ายภาพ เพราะว่าสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่าง ซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลอื่นๆ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ว่าตอนที่ดีที่สุดสำหรับการมาเที่ยวหมายถึงตอนเวลาเช้าหรือไม่ก็เวลาเย็นด้วยเหตุว่าช่วงกลางวันถึงช่วงเวลาบ่ายนั้นอากาศและแดดแรงมาก
เป็นไงบ้างค่ะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วก็ประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้เดินทางท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

5 ยอดเยี่ยมสถานที่ท่องเที่ยวในเวียดนามที่คุณจำต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อกล่าวถึงเวียดนามใครๆก็มักจะคิดถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แม้กระนั้นรู้ไหมมีสถานที่เที่ยวใหม่ๆน่าสนใจอีกเยอะแยะในเวียดนามที่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสอย่างยิ่งๆที่คุณไปเวียดนามต้องไม่พลาด เรามาอัพเดทกันวันเที่ยวเวียดนามทั้งทีจำเป็นต้องสุดๆ5 สถานที่ที่แหน่งใดกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. เที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โฮเต็ล บนยอดดอย อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังราวๆ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราวๆ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา เทือกเขาบานา เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยข้างบนเป็นบ้านพักและก็โฮเต็ลของชาวประเทศฝรั่งเศสสมัยเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 ข้างหลังการสู้รบชาวประเทศฝรั่งเศสพ่ายแพ้กลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่หลายปี จนกระทั่งถูกกลับมาซ่อมเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกทีในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างกระเช้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับการนั่งตะกร้าจากข้างล่างขึ้นไปด้านบน ค่าใช้จ่ายสำหรับเพื่อการก่อสร้างเคเบิลคาร์ระยะแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา และตอนที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดดอย มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้งนี้ บานาฮิลล์ ถูกทำขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่เป็นที่รู้จักจากออสเตรเลีย เครื่องไม้เครื่องมือแล้วก็เครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดเส้นทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งปวง 94 เคบิน กระเช้ามีอีกทั้งแบบเปิดโล่งโอเพ่นเครื่องปรับอากาศกับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ด้านในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.เที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่มีนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และก็ยังรวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงามแล้วก็น่ามาเยี่ยมมากแห่งหนึ่งของโลก และวันนี้พวกเราจะขอเสนอแนะสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งความสวย และความประทับใจ

โดยสถานที่เที่ยวที่เป็นที่รู้จักของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างเป็นถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) ฯลฯกำเนิดของแม่น้ำซอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากด้านในถ้ำ และก็ได้รับการยินยอมรับจาก นักตรวจสอบถ้ำทั่วโลกว่า เป็นถ้ำอันดับต้นๆของโลก เนื่องมาจากเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการเป็นต้นว่า น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำมากที่สุด ยาวที่สุด และกว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) เป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยี่ยมมากแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความเด่นทางธรรมชาติและทางธรรีวิทยา ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (หรือราวๆ 400 ล้านปี) นั่นก็เลยนำมาซึ่งการทำให้อุทยานที่นี้มีพื้นที่แบบหินปูนที่ดั้งเดิมที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จัก (Bo Trach) แล้วก็อำเภอมิญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) รวมทั้งติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาทางด้านใตนราวๆ 500 กม. ข้างในเขตอุทยานมีกลุ่มหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร สวนนี้มีชื่อเสียงในความสวยสดงดงามของถ้ำที่มีอยู่จำนวนมาก และก็ยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำธารใต้ดินขนาดใหญ่

3.ท่องเที่ยวอ่าวฮาทดลอง (Ha Long Bay)
ฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาทดลอง คือสถานที่เที่ยวสำคัญอีกแห่งในประเทศเวียดนามที่ชื่อเสียงมีชื่อเสียงไปทั้งโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนไม่สมควรพลาดชม โดยตรงนี้ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโกเนื่องจากมีความงดงามของธรรมชาติเยอะแยะ

ฮาลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาลองตั้งอยู่ทางทางเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางทิศตะวันออกประมาณ 170 กิโลเมตร และอยู่ใกล้กับเมืองจีน ฮาลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งปวง 1,500 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งยาว 120 กิโล มีเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่กับอย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยสดงดงามซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาทดลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long หมายถึง อ่าวมังกรผู้ดำตรง ตามตำนานราษฎรเวียดนามชี้แจงกันว่า ในอดีตที่ชาวเวียดนามกำลังรบกับจีน เทพเทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งถัดมามังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ทะเลบริเวณอ่าวฮาทดลอง ทำให้มีเพชรนิลจินดารวมทั้งหยกพุ่งกระเด็นออกมาแปลงเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน และก็บางตำนานเอ๋ยถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งมั่นใจว่าอาศัยอยู่ที่รอบๆตูดอ่าว

4.เที่ยวเมืองซาขว้าง ที่นาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาปา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์มากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยทำเลที่ตั้งอันสวยงามที่รุมล้อมไปด้วยขุนคีรีจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นแทบตลอดปีทำให้เช้าของตรงนี้มีไอหมอกปกคลุมสวยสดงดงาม ในแต่ละปี ซาขว้าง จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้แวะเวียนมาท่องเที่ยวได้จำนวนไม่ใช่น้อย

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาปา คือเมืองเล็กๆที่นักเดินทางฝรั่งเริ่มเดินทางมาพักตั้งแต่ยุคที่ประเทศฝรั่งเศสยังปกครองประเทศเวียดนาม โดยคนยุโรปประทับใจที่นี่เพราะว่าอากาศดีแล้วก็เงียบสงบ ถัดมาซาขว้างจึงโด่งดังแล้วก็ได้รับความนิยมจากนักเดินทางมากเพิ่มขึ้นจนกระทั่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมหลายหมื่นคนต่อปี

5.เที่ยวหมุยแหน ภูเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเนื่องจากเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายท่านรู้จักดีกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่รวมทั้งอยู่ติดกับหาดทราย จึงมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งหมายถึงเทือกเขาทรายขาวแล้วก็เทือกเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang แล้วก็มีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วยสำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นเป็นที่ชื่นชอบมากกว่าในสายตาของช่างถ่ายภาพ เนื่องจากสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีงามกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่างซึ่งเครื่องใช้ไม้สอยสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

รายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ว่าขณะที่เยี่ยมที่สุดในการมาท่องเที่ยวคือ ช่วงเวลาเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็น เพราะว่ากลางวันถึงช่วงเวลาบ่ายนั้นอากาศและแดดแรงมากมาย
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีอีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตรวจตราท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วยจ้ะ

ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่แห่งนี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย เนื่องจากเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายๆคนคุ้นเคยกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และก็อยู่ชิดกับชายทะเล ก็เลยมีแดดและก็ลมที่แรงมากทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งหมายถึงเทือกเขาทรายขาวและภูเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และก็มีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วย สำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ได้รับความนิยมมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างถายภาพ เนื่องจากสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีงามกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่าง ซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

รายละเอียดอื่นๆ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ตอนที่ดีที่สุดสำหรับการมาท่องเที่ยวหมายถึงเวลาเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็นเพราะตอนกลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศรวมทั้งแดดแรงมาก
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีอีกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้สำรวจท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

5 สถานที่เที่ยวในประเทศเมียนมาร์ที่คุณจำต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

แม้เอ่ยถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองไทย โดยมากผู้คนจำนวนมากมักรำลึกถึงการไปไหว้พระเพียงแค่นั้น แต่ข้อเท็จจริงพม่า ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายสไตล์ ที่มีคุณค่าแก่การไปสัมผัสสักหนึ่งครั้ง วันนี้เราเก็บ 5 สถานที่เที่ยวประเทศพม่า นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีที่แห่งไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองประเทศพม่า ทะเลเจดีย์แล้วก็วิถีชีวิตแบบพุกามๆ
ถือเป็นโชคดีของชาวประเทศพม่า ที่ศาสนาพุทธเจริญถึงจุดสุดยอดเหมือนกันในขณะนั้น ทำให้พระผู้เป็นเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำประเทศ ท่านสร้างเจดีย์ที่แรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” หลังจากนั้นกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้วก็ผู้มีอันจะกินทั้งหลายแหล่ในพุกามก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด คงเพราะเหตุว่าความศรัทธาที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่โตเท่าใด ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากมายแค่นั้น

อาณาจักรพม่าเคยรุ่งเรืองแค่ไหนเราคงไม่ต้องนำเสนอ เพราะว่าแทบ 1,000 ปีที่ผ่านมาทุกๆอย่างได้พิสูจน์ตนเองไปเรียบร้อยแล้ว ตัวเราต่างหากที่จำเป็นต้องมาพิสูจน์ความใหญ่โตนั้นด้วยตาของเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือเพียง 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่รู้เรื่องว่าอีกหน่อยจะเหลือให้ดูขนาดไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
แม้โลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักผ่อนเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันดีกว่า! สถานที่เที่ยวในประเทศพม่า อีกแห่งที่ต้องการเชื้อเชิญคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom ถือเป็นสวนน้ำแห่งแรกของเมียนมาร์ ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ตรงนี้คุณจะได้พบกับสไลด์เดอร์สุดแจ๋วระดับโลก ทั้ง “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้คุณไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กม./ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้คุณและก็เพื่อนพ้องๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกด้วยกัน ผ่านท่อสีเขียวที่คดเคี้ยว ยาวกว่า 60 เมตร! นอกเหนือจากนี้ยังมีโซนสำหรับคุณหนูอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการสิ่งอำนวยความสะดวกล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อย่างพร้อม หนีร้อนไปสนุกกับสวนน้ำในปิ้งกุ้งกันดีกว่า

3. เที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้เก่าแก่ ที่มีอายุกว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้จำนวนพันกว่าต้น เราสามารถเดินดูสะพานไม้ไปเรื่อยๆได้ รวมทั้งยิ่งในขณะที่ดวงตะวันกำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศรอบๆรอบๆสะพาน จะมองเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์แวววาวกับสายน้ำ นอกจากจะได้ชมความสวยงามของตะวันขึ้นและตกแล้ว ยังได้เห็นวิถีชีวิตของคนภรรยานมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดตรึงตาตรึงใจกันอย่างยิ่งจริงๆ

ของร้านขายเครื่องดื่ม ขายของกินบนเกาะ ดูพระอาทิตย์ตกในทะเลสาบ แถมมีปลาแล้วก็กุ้งใหม่ๆจากทะเลสาบ ให้ได้ลิ้มชิมรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วรอคอยชมดวงตะวันตกได้อีกด้วย แนวทางท้ายที่สุดเป็นแนวทางที่เสียตังน้อยที่สุดเป็นสามารถยืนดูทิวทัศน์บนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละแบบแรง

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด รวมทั้งวิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่ตรงกลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ชาวบ้านดำเนินชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? คือชาวบ้านเค้าก่อสร้างบ้านรวมทั้งอาศัยกันในทะเลสาบเลยแกรเอ้ยยย ต่อนี้ไปเนี่ย แน่นอนการดำรงอยู่และการเพาะปลูกหรือเกษตรกรรมของเค้าจะต้องเกี่ยวกับทางน้ำ ดังเช่น การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การสร้างบ้านแบบเสาค้ำกึ่งกลางน้ำ รวมทั้งยานพาหนะจำเป็นต้องอย่างเรือ ที่แน่ๆมีหยุดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลคือพรสวรรค์ของชาวอินติดอยู่เนี่ยล่ะ การนำยเรือด้วยเท้าข้างเดียวสำหรับเพื่อการเดินทางรวมถึงจับสัตว์ในน้ำที่ไม่เหมือนใครในโลก ดังมากโว้ย ดังจนตรงนี้เป็นอีกจุดหมายนึงที่นักเดินทางจำต้องมาดูเลยแหละ ทราบอย่างงี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต ที่สมุทรพม่า.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดระนองแค่เพียงราวๆ 81.2 กิโลแค่นั้น เกาะที่นี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีริมหาด มีช่องว่างอยู่กลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ ถ้าเกิดดูจากมุมสูงจะเห็นว่าช่องกึ่งกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น เพิ่มเติมกับบริเวณรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวขจี ทำให้รูปร่างหัวใจนี้แลเห็นชัดเจน จนได้รับการขนานนามจากคนประเทศไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งคนต่างชาติจะรู้จักกันในนาม “Hidden Lagoon”

เห็นไหมล่ะว่า การไปเที่ยวพม่า ก็มิได้มีแม้กระนั้นการไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวเพียงแค่นั้น เมียนมาร์ยังมีแหล่งธรรมชาติสวยๆอีกเพียบเลย โดนใจคนถูกใจเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ หากได้โอกาสทดลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การเที่ยวประเทศพม่ากว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

5 สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ที่คุณห้ามพลาดเป็นอันขาด อัพเดท 2018

ประเทศเกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ชาวไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เพราะว่าใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียงแต่ 5-6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว แล้วก็ยังเป็นประเทศไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอีกด้วย ถ้าเกิดจะพูดถึงสถานที่เที่ยวในเกาหลีนั้นจริงๆแล้วมีมากไม่น้อยเลยทีเดียวหลายแห่ง โดยเหตุนั้นใครกันแน่กำลังแพลนลานไปเที่ยวหรือกำลังตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนดี ทดลองตามมามอง 15 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดในประเทศเกาหลี แล้วจะต้องอยากไปเที่ยวแน่ๆ

1. พระราชสำนักเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace
พระราชสำนักเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “ราชสำนักคยองบกกุง” เป็นทั้งสัญญลักษณ์และก็แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล วังที่มีขนาดใหญ่และก็เก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล ผลิตขึ้นในปี 1394 ในยุคพระผู้เป็นเจ้าแทโจ วงศ์สกุลโชชอน แรกเริ่มนั้นด้านในพระราชวังมีตึกและก็ตำหนักต่างๆมากยิ่งกว่า 200 หลัง แต่เมื่อมีการรุกรานของประเทศญี่ปุ่น ตึกโดยมากก็ได้ถูกทำลายลงคงเหลืออยู่เพียงแต่ 10 หลังเท่านั้น

2. เกาะนามิ สุดโรแมนติเตียนค Namiseom Island
เกาะนามิมีต้นเหตุจากผลการกั้นน้ำเพื่อสร้างเขื่อน มีพื้นที่ราว 270 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว บนเกาะนี้เป็นที่รู้จักในหมู่คนเกาหลีมานานเนื่องด้วยมีธรรมชาติที่สวยงามยังมีสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ตามธรรมชาติดังเช่น กระรอก กระแต นก หงส์ ห่าน รวมถึงนกกระจอกเทศด้วย และที่นี่จะนำสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด เพียงแต่รักษาความชอบธรรมชาติเอาไว้ โดยขณะที่มีนักท่องเที่ยวมาสูงที่สุดจะเป็นช่วงๆฤดูใบไม้ร่วง เพราะเหตุว่าต้นไม้มากมายก่ายกองที่นี่จะเปลี่ยนสีเหลือง สีแดง สีส้ม โดยยิ่งไปกว่านั้นทางเดินใต้ต้นแปะก๊วยที่จะแปลงใบเป็นสีเหลืองสดสวยงามมากมาย แต่ตรงนี้คนจะเยอะแยะตลอดทุกฤดู

3. รางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station
รางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station เป็นเยี่ยมในจุดดูซากุระที่สวยลำดับที่หนึ่งของเกาหลีเลยก็ว่าได้ โดยสามารถมองเห็นรถไฟที่วิ่งมาจอดที่สถานีพร้อมกับวิวอุโมงค์ดอกซากุระที่เรียงรายกันอยู่เต็มทั้งสองข้างทางในช่วงประมาณต้นเดือนเดือนเมษายน สถานีรถไฟคยองฮวาแห่งนี้เป็นสถานีเล็กๆที่อยู่ที่เมืองจินแฮ (Jinhae) จังหวัดเคียงซังนัมโด (Gyeongsangnam-do) ได้มีการยกเลิกการใช้แรงงานไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แม้กระนั้นจะเปิดให้รถไฟวิ่งเฉพาะในช่วงเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ซึ่งเป็นเทศกาลชมดอกซากุระที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ของเมืองจินแฮ แต่ว่ารถไฟนั้นจะไม่ได้มาจอดที่สถานี ก็แค่ใช้เป็นทางผ่านไปยังสถานีอื่นๆ

4. อุโมงค์ซากุระ คลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream
อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream เป็นเยี่ยมในจุดที่โด่งดังสูงที่สุดสำหรับการชมดอกซากะของเมืองจินแฮ เริ่มมีชื่อเสียงกันภายหลังซีรีย์เรื่อง Romance ออกอากาศเมื่อปี 2002 ซึ่งใช้ลำคลองแห่งนี้เป็นฉากในการถ่ายทำ มีชื่อเสียงกระทั่งมีชื่อเรียกสะพานที่ใช้ข้ามคลองตามชื่อซีรีย์ซึ่งก็คือ Ramance Bridge

ในทุกๆเมษายนของทุกปีซึ่งเป็นตอนที่มีเทศกาลดูดอกซากุระ ที่คลองแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาดูความงดงามของดอกซากุระ สามารถเดินเที่ยวได้ทั้งข้างบนสะพานแล้วก็ข้างล่างซึ่งจะมีทางเท้ายาวตลอดแนวเรียบไปกับคลองน้ำ รวมทั้งยังมีดอกเรปซีดซึ่งเป็นดอกไม้ต้นเล็กออกดอกสีเหลืองบานพร้อมซากุระอีกด้วย แต่ละปีก็จะมีการแต่งแต้มตกแต่งรอบๆคลองในตอนที่จัดงานเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการนำร่มที่สีสันแจ่มใสมาแขวนไว้หรือจะเป็นโคมรูปหัวใจสวยๆแล้วก็ในตอนตอนค่ำก็จะเปิดไฟแต่งแต้มสวยงามมากมาย

5. บริเวณช้อปปิ้งเมียงป่าดง หรือ มยองดง
เขตช้อปปิ้งเมียงดง หรือ มยองป่า (Myeong-dong) ตั้งอยู่ศูนย์กลางกรุงโซล เป็นย่านช้อปปิ้งที่ฮิตรวมทั้งคักคักที่สุดของกรุงโซล ยั่วยวนใจนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้สบาย นับว่าเป็นศูนย์กลางของการเมือง เศรษฐกิจ และก็วัฒนธรรมอย่างยิ่งจริงๆ ภายในตลาดเมียงป่าเต็มไปด้วยร้านรวง แล้วก็ห้องอาหารนับไม่ถ้วน เป็นเลิศในสถานที่ยอดฮิตของนักเดินทางรวมทั้งนักช้อป

ห้าง
ห้างที่ใหญ่ที่สุด ดังเช่น ห้างลอตเต้(Lotte) กับห้างคุ้นชินเซเอ็ง(Shinsegae) ส่วนร้านอื่นๆก็ตั้งอยู่ทุกซอกมุม รวมทั้งร้านหาบเร่ริมถนนที่เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องแต่งหน้า สินค้าอื่นๆในราคาไม่แพง และก็ของหวานแสนอร่อย โดยเถ้าแก่ส่วนมากสามารถบอกภาษาอังกฤษ ประเทศญี่ปุ่น จีน และก็ไทยได้

เป็นยังไงบ้าง 5 สถานที่เด็ดไหม สามารถติดตามดูการจัดสถานที่เที่ยวในเกาหลีใต้ ซึ่งมีอีกเพียบเลยจริงๆประเทศนี้เที่ยวอย่างไรก็ไปไม่หมดกล้วยๆหวังว่าสหายๆคงจะชอบ และก็ติดตามบทความของเรา คนไหนกันประทับใจโปรดแชร์ให้สหายๆได้อ่านกันด้วยนะ แล้วเจอกันตอนใหม่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เกาหลี

เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชธานีท้ายที่สุดของประเทศพม่า

“เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชบุรีสุดท้ายของพม่า”
วันนี้พวกเราจะมาเสนอแนะสถานที่ท่องเที่ยงในพม่าอีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมเฉพาะตัว เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวคลั่งไคล้กระทั่งไม่เคยรู้ลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชเมืองท้ายที่สุดก่อนจะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ตรงนี้ถือเมืองใหญ่อันดับที่สองของพม่ารองจากนครปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากปิ้งกุ้งโดยประมาณ 716 กิโลเมตรและพระผู้เป็นเจ้าไม่นป่าทรงย้ายราชเมือง มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชธานีในปี คริสต์ศักราช 2400 โดยพระผู้เป็นเจ้ามินป่า โดยตั้งชื่อตามเทือกเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
พุกาม
เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่งามมากมายแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยยิ่งไปกว่านั้นความใหญ่โตของเจดีย์จำนวนไม่ใช่น้อยกว่า5,000 องค์ จนได้รับฉายานามว่าเป็นเมืองแห่งเจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งถึงความรุ่งโรจน์ของศาสนาพุทธในประเทศประเทศพม่าได้เป็นอย่างดีคนทั่วไปก็เลยขนานนามเมืองพุกามนี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
ภูเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดชมวิวสวยสดงดงามแล้วก็มีปูชนียสถานหลักๆให้นักท่องเที่ยวได้ชม ทั้งดูธรรมชาติ มองทัศนียภาพอันสวยที่สุด และสามรถมองดูเมืองมัณฑะเลย์ ได้เกือบทั้งหมด สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองมัณฑะเลย์ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส เที่ยวดูตลอดระยะเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ทำขึ้นในยุคพระผู้เป็นเจ้าโบดอพญา สร้างขึ้นเพื่อผ่านทะเลสาบToungthamon ระยะทางกว่า 1 กม. จุดแข็งของสะพานเเห่งนี้นอกเหนือจากที่จะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังผลิตมาจากไม้สัก ที่รื้อมาจากวัง เเห่งกรุงอังวะ
ตักบาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดไม่ได้เมื่อไปเยื่อนประเทศพม่าคือการตักบาตรพระ ในช่วงเวลาสายๆจะมีพระพม่าเดินเรียงแถวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำจากไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยรอบๆวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม กับข้าวต่างๆหรือถ้าไม่ได้อยากซื้อเราสามารถมอบให้เงินตามกำลังเชื่อถือได้เลย
นี่เป็นเพียงแต่ภาพบรรยากาศส่วนใดส่วนหนึ่งของเมืองมัณฑะเลย์ นอกเหนือจากนั้นประเทศพม่ายังมีสถานที่เที่ยวที่งาม แล้วก็น่าดึงดูดอีกเยอะแยะที่ยังคอยพวกเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต และก็วัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับไทยพวกเรา รวมทั้งที่สำคัญใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ผู้ใดมีเวลาว่างๆก็อย่าลืมพม่า ไม่งกะละบานะขา

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

เที่ยวพม่าสักการะ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของพม่า

ชื่นชมพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุรายปีกำเนิดของปีม้า สักการพระธาตุมุเตา เยอะที่สุดของประเทศพม่า ไหว้พระธาตุอินทร์แขวน พระบรมสารีริกธาตุประจำปีเกิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
ถ้าหากจะกล่าวถึงการไปเที่ยวเมียนมาร์แล้ว อาจจะไม่มีผู้ใดไม่พูดถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองเมียนมาร์ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพม่า ทั้งยังชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวประเทศพม่าต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่มีอายุโบราณกว่า 2,000 ปี เป็นที่ติดตั้งพระผมธาตุ 8 เส้น ของพระพุทธเจ้า และมีความใหญ่โตอลังการ โดยมากถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งมีสาเหตุจากแรงเลื่อมใสของชาวเมียนมาร์ ด้วยกันบริจาคเงินทองเงินทอง ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยมีทองคำแท้เปิดเผยเป็นแผ่นเรียงต่อกันหุ้มตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัมเลยทีเดียว ทำให้เจดีย์ที่นี้ มีสีทองสัมฤทธิ์อร่าม ฉายแสงให้มองเห็นทั้งยังกลางวันกลางคืน ยิ่งไปกว่านี้ ด้านบนยอดเจดีย์ยังถูกแต่งแต้มไปด้วยอัญมณีอันเลอค่า ส่องระยิบเห็นมาแต่ไกลผู้คนที่มาท่องเที่ยวพม่า นอกจากจะมาสรรเสริญความงามของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว ต้องไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระตั้งจิตอธิษฐานและกราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานประสบผลสำเร็จ หรือ ลานอธิษฐาน ด้วยเหตุว่าเชื่อว่าจะสัมฤทธิผลจากที่ประสงค์ ต่อด้วยการรดน้ำพระประจำวันกำเนิดที่ตั้งอยู่ทั้งยังแปดด้านรอบองค์เจดีย์รวมทั้งมีพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้บูชาขอพร
2. พระบรมธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ท่องเที่ยวประเทศพม่าดูความสวยสดงดงามของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวพม่ากันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีชมความสวยงามในแบบอย่างมอญกันบ้างที่ พระบรมสารีริกธาตุมุเตา หรือพระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุโบราณกว่า 2,000 ปีและยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเมียนมาร์อีกด้วย ข้างในเจดีย์บรรจุพระเส้นผมธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยมอญเรืองอำนาจ ทำให้รูปแบบที่เห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทุกๆอย่าง โดยมีฉัตรแบบเรียบๆองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ด้านในเป็นอิฐกลวง โดยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คือ ใช้เป็นที่ทำพระราชพิธีเจาะพระกรรณของพระผู้เป็นเจ้าตะเบ็งชะเวตี้เมื่อครั้งพระองค์ขึ้นครองราชย์ใหม่ๆถัดมาพระเจ้าบุเรงท่วมได้สร้างฉัตรมอบเพิ่มเติมอีกหลายชั้น กล่าวกันว่าก่อนที่จะพระองค์จะออกทำศึกเมื่อใด จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกคราว แล้วก็สมเด็จพระพระราชามหาราชเมื่อครั้งเคลื่อนพลมาตีหงสาวดีก็ได้เสด็จมานมัสการ ณ ที่ที่นี้เช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาได้กำเนิดแผ่นดินไหวหลายหน และครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะแล้วก็นำเสนอซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาท่องเที่ยวพม่าได้สักการะคู่กันกับองค์ปัจจุบัน ซึ่งนี่เองที่นับว่าเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยกรรมวิธีอธิษฐาน ให้เอามือและหน้าผากแตะไปที่พระบรมธาตุองค์เดิมที่หัก และอธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสัมฤทธิ์ผล
3. พระบรมธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจคราวโย
พระบรมธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจคราวโย ในภาษามอญ มีความหมายว่าหินรูปหัวฤๅษี เป็นหินที่เชื่อถือ มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองคำขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตันตั้งอยู่บนหน้าผาชัน ถ้าหากมองด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อหินนั้นยื่นออกมานอกหน้าผาแถมหน้าผายังลาดเทลงต่ำ ทำให้ดูเหมือนกับว่าก้อนหินวางอยู่อย่างล่อแหลมเสมือนจะร่วงลงมา แต่กลับตั้งสูงเด่นบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงแต่น้อยนิด ไม่เกรงกลัวต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่ประการใด เหมือนกับถูกพระอินทร์มาจับแขวนเอาไว้ จึงได้เรียกกันว่า พระบรมสารีริกธาตุอินทร์แขวนยิ่งไปกว่านี้ ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนหิน ได้ถูกจำลองเป็นพระเกศาแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระบรมสารีริกธาตุรายปีหน้าจอ ที่คนเกิดปีนี้ต้องท่องเที่ยวเมียนมาร์ เพื่อไปนมัสการสักหนึ่งครั้งหนึ่งในชีวิต เชื่อกันว่า หากคนใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์ห้อยนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสบายความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดังมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ท่องเที่ยวพม่าสักการ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของเมียนมาร์

ยกย่องพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระบรมธาตุประจำปีกำเนิดของปีมะเมีย สักการะพระธาตุมุเตา เยอะที่สุดของพม่า ไหว้พระธาตุอินทร์แขวน พระบรมธาตุประจำปีกำเนิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
แม้จะพูดถึงการไปเที่ยวประเทศพม่าแล้ว คงไม่มีผู้ใดไม่กล่าวถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองเมียนมาร์ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมียนมาร์ ทั้งยังฝรั่งที่มาเที่ยวพม่าต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่แก่ดั้งเดิมกว่า 2,000 ปี เป็นที่ตั้งพระผมธาตุ 8 เส้น ของพระพุทธเจ้า และมีความใหญ่โตยอดเยี่ยม โดยมากถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากแรงศรัทธาของชาวพม่า ร่วมกันบริจาคเงินทองทรัพย์สิน ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่ยิ่งขึ้นเรื่อยมีทองคำแท้เผยเป็นแผ่นเรียงต่อกันหุ้มตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 กิโลอย่างยิ่งจริงๆ ทำให้เจดีย์แห่งนี้ มีสีทองสัมฤทธิ์แพรวพราว ส่องแสงให้มองเห็นกลางวันช่วงเวลากลางคืน ยิ่งไปกว่านี้ ด้านบนยอดเจดีย์ยังถูกตกแต่งไปด้วยเพชรพลอยอันเลอค่า ส่องแสงระยิบเห็นมาแต่ไกลผู้คนที่มาท่องเที่ยวพม่า นอกจากจะมาชื่นชอบความสวยของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว จำต้องไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระตั้งจิตอธิษฐานรวมทั้งกราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานประสบผลสำเร็จ หรือ ลานอธิษฐาน เพราะว่าเชื่อว่าจะประสบผลสำเร็จตามที่ประสงค์ ต่อด้วยการรดน้ำพระทุกวันเกิดที่ตั้งอยู่ทั้งแปดทิศรอบองค์เจดีย์รวมทั้งมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้กราบไหว้ขอพร
2. พระธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ท่องเที่ยวเมียนมาร์ดูความสวยงามของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวประเทศพม่ากันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีชมความสวยในแบบอย่างมอญกันบ้างที่ พระบรมธาตุมุเตา หรือพระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปีรวมทั้งยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเมียนมาร์อีกด้วย ข้างในเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยมอญเรืองอำนาจ ทำให้ต้นแบบที่มองเห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทุกสิ่ง โดยมีฉัตรแบบเรียบองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ข้างในเป็นอิฐกลวง โดยมีความหมายทางประวัติศาสตร์เป็น ใช้เป็นที่ทำพระราชพิธีเจาะพระหูของพระเจ้าตะเบ็งเสียงชะเวตี้เมื่อครั้งพระองค์ขึ้นครองราชย์ใหม่ๆต่อมาพระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วมได้สร้างฉัตรมอบเพิ่มอีกหลายชั้น พูดกันว่าก่อนที่จะพระองค์จะออกทำศึกทำสงครามเวลาใด จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกหน และสมเด็จพระกษัตริย์มหาราชเมื่อครั้งยกพลมาตีหงสาวดีก็ได้เสด็จมานมัสการในที่ที่นี้เช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาได้กำเนิดแผ่นดินไหวบ่อยมาก และก็ครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะและแสดงซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาท่องเที่ยวพม่าได้สักการะคู่กันกับองค์ปัจจุบันนี้ ซึ่งนี่เองที่นับว่าเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยขั้นตอนการอธิษฐาน ให้เอามือและก็หน้าผากแตะต้องไปที่พระบรมสารีริกธาตุองค์เดิมที่หัก และก็อธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสำเร็จผล
3. พระบรมสารีริกธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจคราวโย
พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจครั้งโย ในภาษามอญ แปลว่าหินรูปหัวฤษี เป็นก้อนหินที่เลื่อมใส มีลักษณะเป็นหินสีทองขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตันตั้งอยู่บนหน้าผาชัน ถ้าดูด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อหินนั้นยื่นออกมานอกผาแถมผายังเอียงลงต่ำ ทำให้ดูเหมือนกับว่าหินวางอยู่อย่างหมิ่นเหม่ราวกับจะร่วงลงมา แต่ตั้งตระหง่านบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงน้อยนิด ไม่เกรงกลัวต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่ประการใด เหมือนกับถูกพระอินทร์มาจับห้อยเอาไว้ จึงได้เรียกกันว่า พระบรมธาตุอินทร์ห้อยนอกเหนือจากนี้ ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนหิน ได้ถูกจำทดลองเป็นพระเกศาแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีหน้าจอ ที่คนเกิดปีนี้จำเป็นต้องไปเที่ยวเมียนมาร์ เพื่อไปนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต เชื่อกันว่า ถ้าหากคนใดได้มานมัสการพระบรมสารีริกธาตุอินทร์ห้อยนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง และขอสิ่งใดก็จะได้สมดั่งมุ่งหมายทุกอย่าง

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

เยือนมัณฑะเลย์ เมืองแห่งมนต์เสน่ราชบุรีในที่สุดของประเทศพม่า

“เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองแห่งมนต์เสน่ราชเมืองสุดท้ายของประเทศพม่า”
วันนี้พวกเราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยงในพม่าอีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมส่วนตัว เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักเดินทางหลงใหลกระทั่งไม่รู้ลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชเมืองท้ายที่สุดก่อนที่จะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ตรงนี้ถือเมืองใหญ่อันดับลำดับที่สองของเมียนมาร์รองจากนครปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากย่างกุ้งราวๆ 716 กม.แล้วก็พระเจ้าไม่นดงทรงย้ายราชจังหวัด มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชเมืองในปี คริสต์ศักราช 2400 โดยพระผู้เป็นเจ้าไม่นป่าดง โดยตั้งชื่อตามภูเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
พุกาม
เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพุทธศักราชที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยมากแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยเฉพาะความโหฬารของเจดีย์มากไม่น้อยเลยทีเดียวกว่า5,000 องค์ จนได้รับฉายาว่าเป็นเมืองที่เจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งถึงความเจริญรุ่งเรืองของศาสนาพุทธในประเทศเมียนมาร์ได้อย่างดีเยี่ยมคนทั่วๆไปจึงเรียกเมืองพม่านี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
ภูเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดชมวิวงดงามและก็มีสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาสำคัญๆให้นักเดินทางได้ชม อีกทั้งดูธรรมชาติ ดูทัศนียภาพอันสวยสดงดงามที่สุด รวมทั้งสามรถยนต์มองดูเมืองมัณฑะเลย์ ได้แทบจะทั้งหมด สามารถเห็นทิวภาพของเมืองมัณฑะเลย์ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส เที่ยวชมตลอดเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ทำขึ้นในยุคพระผู้เป็นเจ้าโบดอพญา ผลิตขึ้นเพื่อผ่านทะเลสาบToungthamon ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร จุดเด่นของสะพานเเห่งนี้นอกจากจะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังสร้างขึ้นมาจากไม้สัก ที่รื้อมาจากพระราชสำนัก เเห่งกรุงอังวะ
ตักบาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดมิได้เมื่อไปเยื่อนพม่าเป็นการตักบาตรพระ ในช่วงสายๆจะมีพระประเทศพม่าเดินเข้าแถวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำมาจากไม้ไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยรอบๆวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม อาหารต่างๆหรือถ้าเกิดไม่ต้องการที่จะอยากซื้อพวกเราสามารถมอบเงินตามกำลังเชื่อถือได้เลย
นี่เป็นแค่เพียงภาพบรรยากาศส่วนหนึ่งส่วนใดของเมืองมัณฑะเลย์ นอกเหนือจากนั้นประเทศพม่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม และน่าสนใจอีกเพียบเลยที่ยังรอคอยพวกเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต แล้วก็วัฒนธรรมที่มีความคล้ายกับไทยเรา รวมทั้งที่สำคัญใช้เวลาเดินทางแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง คนไหนกันแน่มีเวลาว่างๆก็อย่าลืมประเทศพม่า มิงกะละบานะคะ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

เยี่ยมมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชจังหวัดสุดท้ายของเมียนมาร์

“เยือนมัณฑะเลย์ เมืองที่มนต์เสน่ราชบุรีสุดท้ายของเมียนมาร์”
วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยงในพม่าอีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมเฉพาะตัว เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักเดินทางหลงใหลจนกระทั่งไม่เคยทราบลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชธานีสุดท้ายก่อนที่จะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ที่นี่ถือเมืองใหญ่อันดับลำดับที่สองของพม่ารองจากนครปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากปิ้งกุ้งราวๆ 716 กิโลแล้วก็พระผู้เป็นเจ้ามินป่าดงทรงย้ายราชจังหวัด มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชบุรีในปี คริสต์ศักราช 2400 โดยพระเจ้าไม่นป่าดง โดยตั้งชื่อตามเทือกเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
พม่า
เป็นเมืองโบราณตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยงามมากมายแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยยิ่งไปกว่านั้นความใหญ่โตของเจดีย์เยอะมากๆกว่า5,000 องค์ จนได้รับฉายานามว่าเป็นเมืองที่เจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งถึงความเจริญรุ่งเรืองของศาสนาพุทธในประเทศพม่าได้อย่างดีเยี่ยมคนทั่วๆไปก็เลยตั้งชื่อเมืองประเทศพม่านี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
เทือกเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดสำหรับชมวิวงามรวมทั้งมีปูชนียสถานสำคัญๆให้นักเดินทางได้ชม อีกทั้งดูธรรมชาติ มองทิวทัศน์อันงดงามที่สุด และสามรถมองเมืองมัณฑะเลย์ ได้แทบทั้งสิ้น สามารถเห็นทิวทัศน์ของเมืองมัณฑะเลย์ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส เที่ยวชมตลอดระยะเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ทำขึ้นในสมัยพระผู้เป็นเจ้าโบดอพญา ผลิตขึ้นเพื่อข้ามทะเลสาบToungthamon ระยะทางกว่า 1 กม. ลักษณะเด่นของสะพานเเห่งนี้นอกจากจะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังสร้างจากไม้สัก ที่รื้อมาจากราชสำนัก เเห่งกรุงอังวะ
ตักบาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดมิได้เมื่อไปเยื่อนประเทศพม่าเป็นการตักบาตรพระ ในช่วงเวลาสายๆจะมีพระเมียนมาร์เดินเข้าคิวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำจากไม้ไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยบริเวณวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม อาหารต่างๆหรือถ้าหากไม่ต้องการซื้อเราสามารถมอบให้เงินตามกำลังเลื่อมใสได้เลย
นี่เป็นเพียงภาพบรรยากาศส่วนใดส่วนหนึ่งของเมืองมัณฑะเลย์ นอกนั้นประเทศพม่ายังมีสถานที่เที่ยวที่งดงาม และน่าดึงดูดอีกเยอะแยะที่ยังคอยเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่มีความคล้ายกับไทยพวกเรา และที่สำคัญใช้เวลาเดินทางเพียงแต่ไม่กี่ชั่วโมง คนไหนกันแน่มีเวลาว่างๆก็อย่าลืมประเทศพม่า มิงกะละบานะค่ะ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

เยือนมัณฑะเลย์ เมืองแห่งมนต์เสน่ราชจังหวัดสุดท้ายของพม่า

“เยือนมัณฑะเลย์ เมืองแห่งมนต์เสน่ราชธานีท้ายที่สุดของประเทศพม่า
วันนี้เราจะมาเสนอแนะสถานที่ท่องเที่ยงตรงในเมียนมาร์อีกมุมมองหนึ่งก็คือเมืองมัณฑะเลย์ มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่มีอารายธรรมเฉพาะตัว เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักเดินทางหลงใหลจนไม่ทราบลืม
มัณฑะเลย์เป็นอดีตเมืองหลวงราชบุรีท้ายที่สุดก่อนที่จะเสียประเทศให้กับการรุกรานของอังกฤษ ที่นี่ถือเมืองใหญ่อันดับที่สองของเมียนมาร์รองจากนครปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในเขตฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากย่างกุ้งโดยประมาณ 716 กม.และพระเจ้ามินป่าดงทรงย้ายราชเมือง มาก่อตั้งเป็นเมืองหลวงราชธานีในปี คริสต์ศักราช 2400 โดยพระเจ้ามินป่า โดยตั้งชื่อตามภูเขามัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้เคียง วงเวียนของเมืองมัณฑะเลย์
พม่า
เป็นเมืองโบราณตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยมากแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยยิ่งไปกว่านั้นความโหฬารของเจดีย์หลายชิ้นกว่า5,000 องค์ จนได้รับนามสมมุติว่าเป็นเมืองที่เจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บอกถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในประเทศเมียนมาร์ได้อย่างดีเยี่ยมคนทั่วไปจึงตั้งชื่อเมืองประเทศพม่านี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
เทือกเขามัณฑะเลย์ฮิลล์
เป็นจุดชมวิวสวยและก็มีปูชนียสถานสำคัญๆให้นักท่องเที่ยวได้ดู ทั้งยังมองธรรมชาติ มองทัศนียภาพอันงามที่สุด และก็สามรถมองดูเมืองมัณฑะเลย์ ได้เกือบทั้งหมด สามารถแลเห็นทิวทัศน์ของเมืองมัณฑะเลย์ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างพากันแวะเวียนมาสัมผัส ท่องเที่ยวชมตลอดระยะเวลา
สะพานไม้อูเบ็ง
สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ผลิตขึ้นในยุคพระเจ้าโบดอพญา ทำขึ้นเพื่อข้ามทะเลสาบToungthamon ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ลักษณะเด่นของสะพานเเห่งนี้นอกจากจะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเเล้วนั้น สะพานอูเบ็ง ยังสร้างมาจากไม้สัก ที่รื้อมาจากพระราชสำนัก เเห่งกรุงอังวะ
ใส่บาตรพระ
กิจกรรมยอดฮิตที่พลาดมิได้เมื่อไปเยื่อนเมียนมาร์คือการตักบาตรพระ ในตอนเวลาสายๆจะมีพระประเทศพม่าเดินเรียงแถวออกมาเพื่อรับบิณฑบาตโดยใช้บาตรที่ทำมาจากไม้ไผ่สานลงรักสีดำสนิท โดยบริเวณวัดจะมีคนมาเร่ขายคอกไม้ ข้าวโพดต้ม อาหารต่างๆหรือหากไม่ได้อยากต้องการซื้อพวกเราสามารถถวายเงินตามกำลังเลื่อมใสได้เลย
นี่เป็นเพียงภาพบรรยากาศส่วนใดส่วนหนึ่งของเมืองมัณฑะเลย์ นอกจากนี้ประเทศพม่ายังมีสถานที่เที่ยวที่สวยสดงดงาม แล้วก็น่าสนใจอีกเยอะมากที่ยังรอคอยพวกเราไปสัมผัสไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต และก็วัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับไทยเรา รวมทั้งที่สำคัญใช้เวลาเดินทางเพียงแต่ไม่กี่ชั่วโมง ผู้ใดมีเวลาว่างๆก็อย่าลืมเมียนมาร์ ไม่งกะละบานะคะ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า